ประวัติความเป็นมาของ “พรรคไทยสมาร์ท”
พรรคไทยสมาร์ท ได้ก่อตั้งขึ้นเมื่อ วันที่ 23 เมษายน 2565 จากการรวมตัวของผู้ร่วมก่อตั้ง พรรคมวลชนสยาม ซึ่งเป็นพรรคเดิม และ มีแนวร่วมบางส่วนจาก พรรคเศรษฐกิจใหม่ ผนวกเข้ากันเป็น “พรรคไทยสมาร์ท” โดยในวันประชุมใหญ่ครั้งแรก เมื่อวันที่ 23 เมษายน 2565 สมาชิกพรรคไทยสมาร์ทได้ลงมติให้ “นายเกียรติภูมิ สิริพันธุ์” เป็นหัวหน้าพรรค
หลังจากนั้นคณะกรรมการบริหาร พรรคไทยสมาร์ท ได้สร้างอุดมการณ์ทางการเมืองร่วมกัน โดยมีเจตนารมณ์ในการสร้างความ “สมาร์ท” ให้ประชาชนคนไทยทั้งประเทศ โดยการนำเทคโนโลยีสมัยใหม่ที่ดีที่สุดในโลก มาประยุกต์ใช้ในประเทศไทย ให้ประชาชนมีความสามารถ ในการสร้างรายได้ด้วยตัวเอง อย่างมีศักดิ์ศรีและสามารถนำพาเศรษฐกิจของประเทศให้เจริญรุ่งเรือง
นายเกียรติภูมิ สิริพันธุ์ หัวหน้าพรรคไทยสมาร์ท ได้นำอุดมการณ์นี้มาสร้าง บัญญัติ 10 ประการ และ ปรัชญา 5 ประการ เพื่อทำให้แผนนโยบายของพรรคมีแนวทางการปฏิบัติงานที่ชัดเจน สามารถปฏิบัติได้จริง และสามารถสร้างประโยชน์ให้ประชาชนและประเทศชาติได้อย่างแท้จริง
![ThaiSmart-PNG ทะลุหลัง [Final] by M](http://thaismart.or.th/wp-content/uploads/2022/05/ThaiSmart-PNG-ทะลุหลัง-Final-by-M.png)
ความหมายของโลโก้ “พรรคไทยสมาร์ท”
- “พรรคไทยสมาร์ท” สีเขียว หมายถึง ประชากรส่วนใหญ่ของประเทศ ที่จะเป็นรากฐานสำคัญ ที่จะนำความเจริญรุ่งเรืองเข้าสู่ความสมาร์ท ทั่วประเทศ เป็นการบ่งบอกถึงความอุดมสมบูรณ์ของทรัพยากรธรรมชาติและการสร้างสิ่งแวดล้อมที่สะอาด เพื่อทำทุกที่ให้เป็นเมืองที่น่าอยู่อาศัย
- “ThAI“ หมายถึง ประเทศไทย ชาติไทย และความเป็นหนึ่งเดียวของคนในประเทศ อักษร AI และ สัญลักษณ์ Wifi หมายถึง เป็นความล้ำหน้าทางเทคโนโลยี่ สามารถเชื่อมโยงกันได้ทั่วโลก ซึ่งสอดคล้องกับสถาณการณ์ในปัจจุบันที่มนุษย์หันมาใช้เทคโนโลยี่มากขึ้น
- “Smart” หมายถึง การสร้างความสมาร์ท ให้แก่คนไทย โดยการนำเทคโนโลยีที่ล้ำสมัย ทันต่อกระแสโลกมาใช้อำนวยความสะดวกให้กับประชาชน ซึ่งพื้นอักษรจะเป็นโซล่าเซลล์ คือการนำพลังงานแสงอาทิตย์มาใช้เพื่อให้เปลี่ยนเป็นพลังงานไฟฟ้า
- “กังหันลม” เป็นการนำเอาพลังงานสะอาดและเทคโนโลยี่ที่ทันสมัย มาประยุกต์ใช้ เพื่อเปลี่ยนกระแสลมให้เป็นพลังงานไฟฟ้า
- โดยภาพรวม สรุปได้ว่า เป็นการใช้เทคโนโลยี่ที่ทันสมัย มาเปลี่ยนแปลงพลังงานจากธรรมชาติให้เป็นพลังงานไฟฟ้า ซึ่งมีต้นทุนเท่ากับศูนย์ เพื่อให้มีประโยชน์ต่อประเทศชาติมากที่สุด ประชาชนก็จะมีความ”สมาร์ท” ประเทศไทยก็จะสามารถก้าวไปสู่กลุ่มประเทศที่พัฒนาแล้วได้ในที่สุด